2019年112期正版跑狗图⛸扬州网

กลายเป็นเรื่องราวที่ทำเอานักร้องดังหน้าหวาน หนามเตย ไทดอลมิวสิค หรือ หนามเตย สะแบงบิน เจ้าของเพลงดังอย่างเพลง “ชอบแบบนี้” ถึงกับปวดขมับ หลังโดนแฟนคลับป่วนหนัก กุเรื่องและเล่าให้กับแฟนคลับคนอื่นๆ ของหนามเตยฟัง จนเกิดการเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายอย่างมากมาย โดยแฟนคลับคนดังกล่าวได้อ้างว่าตนนั้น มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับหนามเตย ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งในหอพัก หรือตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนักร้องดัง รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ จนหนามเตยถึงกับไม่สามารถเล่าวีรกรรมของแฟนคลับคนดังกล่าวจนหมดภายในโพสต์นี้ได้ อีกทั้งเผยว่าเสียใจและไม่โอเคมากๆ ทั้งนี้หนามเตยยังได้ร่ายยาวระบายความในใจอีกดังนี้ “หนามอยากบอกทุกท่านตรงนี้นะคะว่าสิ่งที่พี่เขาพูด ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลยค่ะหนามไม่ได้อยู่กับพี่เขาสองต่อสองเลยแม้เพียงแค่ครั้งเดียว และได้เจอกับพี่เขาตัวเป็นๆ 4-5 ครั้ง (ไม่น่าจะถึงด้วยซ้ำ) และทุกครั้งที่เจอคือเจอกันเป็นกลุ่ม ไม่เคยได้อยู่กันสองต่อสอง หนามเสียใจมากๆค่ะ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ หนามเพียงแค่ต้องการให้ความสำคัญกับพี่ๆเอฟซีของหนามทุกคน และคงเป็นเพราะหนามเป็นกันเองจนเกินไปจนเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ หนามจะจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน และเตือนใจตัวเองอยู่เสมอค่ะ ท้ายนี้หนามไม่อยากให้พี่ๆเข้าใจหนามผิดในเรื่องนี้เลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยตรงของหนาม หากใครมีข้อสงสัย หรือมีใครเล่าเรื่องของหนามให้ฟัง สามารถทักเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงจากหนามได้เลยนะคะ พร้อมตอบเสมอค่ะ และหากพี่คนนั้นได้มาอ่านข้อความนี้ หนามอยากให้พี่หยุดพฤติกรรมแบบนี้นะคะ หนามเคยได้ยินเรื่องพี่มาจากพี่ๆน้องๆศิลปินหลายท่านอยู่เหมือนกัน แต่หนามเลือกที่จะไม่ตัดสินพี่จากคำพูดของคนอื่น จนหนามเองก็ถูกกระทำ หนามเสียใจ และผิดหวังมากๆเลยนะคะ อยากให้พี่รู้ และหยุดทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นๆค่ะ ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจบนะคะ” หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นานก็ได้มีแฟนคลับคนอื่นๆ ที่รักหนามเตยเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจหนามเตยมากมาย อาทิ ทำไมเป็นแบบนั้นนะ กำลังใจอีกทางนะ, เป็นกำลังใจให้น้องหนามนะ, ห่วงใยนะ, ส่งกำลังใจครับ เป็นต้น ขอบคุณภาพประกอบจาก:nhamtoei_kamnadee

2019年112期正版跑狗图 　　美国财政部本周早些时候也公布了新的反俄制裁方案，涉及俄罗斯以及中国等其他国家的300多家公司、银行和数十名个人。中国外交部发言人林剑13日表示，美国在全球范围内滥施单边制裁贻害无穷，严重损害他国主权安全，造成人道惨剧，破坏产供链稳定。乌克兰危机升级后，美方制裁更是变本加厉。而这种乱舞制裁大棒的做法，不仅无助于问题的解决，反而成为世界一个主要的风险源头。